ความรู้เรื่องรถ

การดูแลรักษารถยนต์ มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การดูแลรักษารถยนต์

การดูแลรักษารถยนต์ เจ้าของรถยนต์การสร้างความมั่นใจในอายุการใช้งานที่ยาวนานและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเป็นสิ่งสําคัญ การบํารุงรักษารถยนต์เป็นประจําไม่เพียง แต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถของคุณ แต่ยังก่อให้เกิดประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เราจะสํารวจ ความรู้เรื่องรถ ประเด็นสําคัญของการบํารุงรักษารถยนต์ และให้คําแนะนําที่มีค่าเพื่อให้รถของคุณทํางานได้อย่างราบรื่นบนท้องถนน อ่านเพิ่มเติม>ความรู้เรื่องรถ

แนะนําการบํารุงรักษารถยนต์ ดูแลรักษา ที่คนรักรถต้องรู้

เรื่องที่คนมีรถไม่รู้ไม่ได้ กับวิธีการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นฉบับง่าย ๆ ดูแลรักษา ทำได้ด้วยตัวเอง มีจุดไหนที่ต้องดูแลและหมั่นตรวจเช็กเพื่อการยืดอายุการใช้งานของรถของคุณ เรื่องพื้นฐานของการมีรถ นั่นคือการดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ มีจุดสำคัญไหนบ้างที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ Chobrod รวบรวมมาให้ กับวิธีการบํารุงรักษารถยนต์เบื้องต้นเพื่อถนอมอายุการใช้งานรถของคุณ มาดูกันว่าคุณได้ปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้หรือเปล่า? พร้อมคำแนะนำและข้อควรระวัง

การดูแลรักษารถยนต์ ความสําคัญของการบํารุงรักษารถยนต์เป็นประจํา

  1. ระดับน้ำมันเครื่อง
  • การตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับเครื่อง เช็กระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง
  • เพื่อให้การตรวจเช็กถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน
  • ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็กน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้า
  • โดยปกติควรจะอยู่ไม่เกินขีดบน F(Full,Max) ไม่ควรเกิน 0.5-1 เซนติเมตรของก้านวัด เพราะหากมีปริมาณน้ำมันเครื่องที่มากเกินไป
การดูแลรักษารถยนต์

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะอาจ ทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
  • ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติม น้ำมันเครื่องลงไป
  1. น้ำหล่อเย็น
  • ต้องเช็กระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็กในขณะที่ดับเครื่องและเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมาก ก็อาจจะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็กสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป)
  1. ระดับน้ำกลั่น แบตเตอรี่
  • ต้องเช็กระดับน้ำกลั่น แบตเตอรี่ ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVEL และไม่ควรเติมเกิน กว่าระดับ UPPER/LEVEL เพราะถ้าเติม มากเกินไป น้ำยาอิเลคโทรไลท์ซึ่งเป็นสารละลายกรด ซัลฟูริค จะเจือจางทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นอกจากนี้ น้ำยาอิเลคโทรไลท์อาจจะกระเด็นออกทาง รูระบายไอ และไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ได้
การดูแลรักษารถยนต์

ข้อควรระวัง

  • ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
  • ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวกและลบขันแน่น
  • แบตเตอรี่ยึดแน่นกับฐานที่ตั้ง
  1. ระดับ น้ำมันเบรก
  • ต้องตรวจเช็กด้วยสายตา และสังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรกมีคำว่า MAX และ MIN ระดับน้ำมันเบรกควร อยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรกในกระปุกน้ำมันเบรก มีการรั่วของน้ำมันเบรกออกจากระบบเบรก ระดับน้ำมันเบรกจะลดลงน้อย และช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรกถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรกในกระปุก น้ำมันเบรก ลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจ เช็กสาเหตุ
  1. ระดับ น้ำมันคลัทช์
  • สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับ น้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์ บริการ เพื่อตรวจเช็กหาสาเหตุ
  1. ระดับ น้ำมันเกียร์ AUTO
  • ต้องตรวจเช็กขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็กน้ำมันเกียร์ ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัด น้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ปกติ
  1. ตรวจเช็กระดับน้ำมัน POWER
  • ตรวจสอบระดับที่ก้านวัดจุ่มลึกลงไปในน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ โดยการหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมันPOWER จะติด อยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้าน วัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน ถ้าวัดตอนที่ เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน HOT
การดูแลรักษารถยนต์
  1. ตรวจเช็กสภาพของสายพาน
  • โดยวิธีการมองดูที่สายพานถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้น ควรทำการเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ก็ควรตรวจดูความตึง ของสายพานด้วย โดยการใช้นิ้วกดลงบนสายพานตรงกลาง ระหว่างมู่เล่สองข้าง ถ้าสามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม. ก็น่าจะพอใช้ได้ (ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างตรวจสอบ เพราะการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ผู้ตรวจต้องมีความชำนาญ พอสมควร)

9.การบํารุงรักษา ระบบเบรก ปัดน้ำฝน

  • การบํารุงรักษาระบบเบรกที่ตอบสนองเป็นสิ่งสําคัญยิ่งเพื่อความปลอดภัยของคุณและของผู้อื่นบนท้องถนน
  • ผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอ จากการทำงานปกติของ ใบปัด
  • ถ้ามีสิ่งสกปรก และหินทรายละเอียดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกหรอ
การดูแลรักษารถยนต์
  1. ตรวจเช็กยาง
  • ต้องวัดความดันลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนด และควรเช็กขณะที่รถ ยังไม่ได้ใช้งาน(ยางยังไม่ร้อน) ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติ ควรนำไปตรวจสอบว่า มีตะปูตำหรือไม่ ดูสภาพยางด้วยตา ดูที่ผิวยางมีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่ ดูการสึกหรอของดอกยาง กล่าวคือดอกยางสึกมากไปหรือยัง หรือมีการสึกหรอผิด ปกติ เช่น ลึกเฉพาะตรงกลางหน้ายาง (เติมลมมากเกินไป) สึกเฉพาะขอบยางทั้ง 2 ข้าง (ลมยางอ่อนเกินไป) หรือสึก ด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ ซึ่งกรณีเหล่านี้ ควรปรึกษาช่าง เพราะ ควรจะมีการตรวจเช็กช่วงล่าง และศูนย์ล้อ เอาเล็บมือกดดู ที่เนื้อยางว่า นิ่ม หรือ แข็ง ถ้ายางหมดสภาพ เนื้อยางจะกดไม่ลงจะแข็งมาก

การดูแลรถของคุณสําหรับประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้หลายปี

การดูแลรักษารถยนต์

การบํารุงรักษารถยนต์ที่เหมาะสมคือการลงทุนในอายุการใช้งานที่ยาวนานและประสิทธิภาพของรถของคุณ ด้วยการทําตามเคล็ดลับสําคัญเหล่านี้และรวมเข้ากับกิจวัตรประจําวันของคุณคุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพและสนุกสนานมากขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า

คําถามที่พบบ่อย (FAQ)

แนะนําให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจําทุกๆ 3,000 ถึง 5,000 ไมล์ แต่ควรปฏิบัติตามแนวทางของผู้ผลิตรถยนต์ของคุณ

ใช่การเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศนั้นค่อนข้างง่ายและสามารถทําได้โดยทําตามคําแนะนําในคู่มือรถของคุณ

การหมุนของยางช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสึกหรอของดอกยางยืดอายุการใช้งานของยางของคุณและปรับปรุงการควบคุมและประสิทธิภาพโดยรวม